ปัจจุบัน ยาทำแท้งเป็นวิธีการทั่วไปในการยุติการตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการทำแท้งทั้งหมดในประเทศ

พวกเขายังกลายเป็นแนวหน้าใหม่ในการต่อสู้เพื่อการเข้าถึงการทำแท้งของสหรัฐฯ

การต่อสู้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ mifepristone ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของสูตรยาสองเม็ดที่ประกอบกันเป็นวิธีการทำแท้งด้วยยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ตอนนี้คดีในเท็กซัสขู่ว่าจะดึงยาออกจากชั้นวางทั่วประเทศ

นี่คือข้อมูลของไมเฟพริสโตน ว่ามันทำอะไรและถูกใช้ที่ไหน

ไมเฟพริสโตนคืออะไร?
ไมเฟพริสโตนเป็นยาเม็ดแรกจาก 2 เม็ดที่แนะนำโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เพื่อยุติการตั้งครรภ์

ทำงานโดยการปิดกั้นฮอร์โมนที่เรียกว่าโปรเจสเตอโรนซึ่งจำเป็นสำหรับการตั้งครรภ์ต่อไป ยาตัวที่สอง ไมโซพรอสทอล ทำให้มดลูกว่างเปล่า การศึกษาของสหรัฐฯ ระบุว่า การรักษาด้วยยาแบบ 2 ขั้นตอนมีประสิทธิภาพ 95% ของเวลาทั้งหมด

สหรัฐอเมริกาอนุมัติไมเฟพริสโตนเป็นครั้งแรกสำหรับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์จนถึงอายุครรภ์เจ็ดสัปดาห์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2543 ในปี พ.ศ. 2559 การใช้ยาที่ได้รับอนุมัติได้ขยายไปถึง 10 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์

ไมโซพรอสทอลมีจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์มานานหลายทศวรรษเพื่อใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหารและเพื่อจัดการกับอาการตกเลือดหลังคลอด การใช้งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์จึงเป็นไปได้ว่าเหตุใดจึงไม่ดึงดูดข้อโต้แย้งเช่นเดียวกับไมเฟพริสโตน

ในขณะเดียวกัน ไมเฟพริสโตนยังใช้รักษาสตรีที่แท้งบุตรและกลุ่มอาการคุชชิง ซึ่งเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

จากข้อมูลของ FDAผู้หญิงกว่า 3.7 ล้านคนใช้ไมเฟพริสโตนในสหรัฐอเมริการะหว่างปี 2000 ถึง 2018

ไมเฟพริสโตนปลอดภัยหรือไม่?
กว่า 20 ปีของการใช้ FDA, American College of Obstetrics and Gynecologists (ACOG) และองค์กรทางการแพทย์กระแสหลักอื่นๆ ได้ยืนยันว่าทั้งไมเฟพริสโตนและไมโซพรอสทอลปลอดภัยต่อการใช้งาน

การศึกษาในสหรัฐฯ ระบุว่า การรักษาด้วยยาแบบ 2 ขั้นตอนมีประสิทธิภาพประมาณ 95% ในการยุติการตั้งครรภ์ และต้องการการติดตามทางการแพทย์เพิ่มเติมน้อยกว่า 1% ของทั้งหมด

• Stormont Speaker ถูกบล็อกเนื่องจากการเสนอราคาเพื่อให้กฎของDáithíล้มเหลว
• ลองออกกำลังกายตามช่วงเวลานี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายของ HIIT หรือการบาดเจ็บ

นักรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งจำนวนมากขึ้นกล่าวว่ายาทำแท้งที่เรียกว่า “การทำแท้งด้วยสารเคมี” นั้นมีความเสี่ยงและไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างของพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนโดยองค์กรทางการแพทย์ชั้นนำ เช่น องค์การอนามัยโลกและสมาคมการแพทย์อเมริกัน

ตามที่องค์การอาหารและยาระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 5 รายต่อผู้ใช้ไมเฟพริสโตน 1 ล้านคน ในการเปรียบเทียบ การศึกษาในปี 2544 ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน พบว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 20 รายต่อผู้ใช้เพนิซิลินหนึ่งล้านคน เนื่องจากปฏิกิริยาแพ้ต่อยาปฏิชีวนะที่กำหนดโดยทั่วไป

---

ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ estrelaazul.net อัพเดตทุกสัปดาห์