แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสียเงินไปทั้งหมด 218.93 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,195.06 ล้านบาท ให้กับ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส เมื่อนับรวมรายจ่ายทุกด้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามการเปิดเผยของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี

“ปีศาจแดง” เพิ่งประกาศว่า ป็อกบา จะแยกทางกับทีมเมื่อถึงเวลาที่สัญญาฉบับปัจจุบันหมดอายุลง โดยตัวสัญญามีผลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่เชื่อกันว่า ยูเวนตุส ถือเป็นตัวเต็งอันดับ 1 ที่จะได้ตัวแข้งวัย 29 ปีไปร่วมทัพแบบฟรีๆ

ทั้งนี้ นอกจากค่าตัว 89 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,738 ล้านบาท ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องจ่ายให้ ยูเวนตุส เมื่อปี 2016 แล้วนั้น ทีมดังแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังต้องเสียค่านายหน้าให้กับ มิโน่ ไรโอล่า อดีตเอเยนต์ของ ป็อกบา เป็นเงินจำนวน 39.27 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,649.34 ล้านบาท อีก ในตอนที่ปิดดีลกับ ป็อกบา ได้สำเร็จเมื่อราว 6 ปีก่อน

ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เตรียมจะต้องจ่าย “โบนัสค่าความภักดี” ให้กับ ป็อกบา เป็นเงิน 3.78 ล้านปอนด์ (ประมาณ 158.76 ล้านบาท) เมื่อถึงเวลาที่เขาบอกลาทีมอย่างเป็นทางการด้วย โดยเชื่อกันว่าโบนัสดังกล่าวพ่วงกับเงื่อนไขเกี่ยวกับการอยู่กับทีมครบตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องจ่ายเงินให้ก้บ ป็อกบา หลายด้านเช่นกัน อย่างเช่นค่าลิขสิทธิ์ทางภาพลักษณ์ที่อยู่ในระดับปีละ 2.87 ล้านปอนด์ (ประมาณ 120.54 ล้านบาท), ค่าโบนัสจากการที่ทีมได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลละ 1.875 ล้านปอนด์ (ประมาณ 78.75 ล้านบาท) โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โควตาเล่นถ้วยดังกล่าว 4 ครั้งในช่วง 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา และค่าเหนื่อยที่สูงลิบ

โดยในฤดูกาลแรก ป็อกบา รับค่าเหนื่อยเบื้องต้นอยู่ที่ปีละ 8.61 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 361.62 ล้านบาท ก่อนจะลดเหลือ 7.75 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 325.5 ล้านบาท ต่อปีหลังจบซีซั่นแรกของเขากับทีม

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตอนนั้นค่าเหนื่อยของเขาลดลงมันก็เป็นเพราะเงื่อนไขด้าน “โบนัสค่าความภักดี” มันมีผลใช้งานเหมือนกัน นั่นหมายความว่าต่อให้ตอนนั้นเขาจะได้ค่าเหนื่อยน้อยลง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับรายได้ของเขามากนัก

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ estrelaazul.net